
ต้มยำปลานิล เมนูอาหารไทนยอดฮิตทำกินง่ายรสชาติอร่อย
ต้มยำปลานิล ต้มยำปลานิลเป็นเมนูอาหารไทยยอดฮิต เพราะเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ เหมาะสำหรับรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ต้มยำปลานิลเป็นอาหารประเภทต้มยำที่มีรสเปรี้ยว เค็ม และเผ็ด นิยมรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ต้มยำปลานิลสามารถรับประทานได้ทั้งแบบน้ำใสและน้ำข้น แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล ต้มยำปลานิลเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงจากปลานิล ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี ธาตุเหล็ก และแคลเซียม จึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
วัตถุดิบที่ต้องเตรียมและวิธีการทำต้มยำปลานิล
วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
- ปลานิล 1 ตัว (ประมาณ 1 กิโลกรัม)
- ข่า 1 แง่ง
- ตะไคร้ 2 ต้น
- ใบมะกรูด 6 ใบ
- หอมแดง 3 หัว
- น้ำเปล่าหรือน้ำสต็อค 2 1/2 ถ้วย
- มะนาว 1 ลูก
- พริกขี้หนู 10 เม็ด
- พริกแห้ง 5 เม็ด
- มะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีและผักชีฝรั่งสำหรับใช้โรยหน้า 1/4 ถ้วย
วิธีการทำต้มยำปลานิลน้ำใส
- ล้างปลานิลให้สะอาด ตัดหัวและหางออก แล่เป็นชิ้นพอคำ
- ทุบข่า ตะไคร้ และหอมแดงให้พอแตก
- ใส่น้ำเปล่าหรือน้ำสต็อคลงในหม้อ ใส่ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูดลงไป ตั้งไฟกลางจนเดือด
- ใส่พริกขี้หนู พริกแห้ง และมะขามเปียกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสตามชอบ
- ใส่ปลานิลลงไป ต้มจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ โรยหน้าด้วยผักชีและผักชีฝรั่ง
วิธีทำต้มยำปลานิลน้ำข้น
- ทำตามขั้นตอนของต้มยำปลานิลน้ำใส
- ใส่กะทิลงไป ต้มจนเดือดอีกครั้ง
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสตามชอบ

เคล็ดลับในการทำต้มยำปลานิลไม่ให้คาวและให้ออกมาอร่อย
เคล็ดลับในการทำต้มยำปลานิลไม่ให้คาวและให้ออกมาอร่อย มีดังนี้
- เลือกปลานิลสดใหม่ ปลานิลสดจะมีกลิ่นคาวน้อยกว่าปลานิลเก่า
- ล้างปลานิลให้สะอาด ล้างปลานิลให้สะอาดทั้งภายนอกและภายใน โดยตัดหัวและหางออก แล่เป็นชิ้นพอคำ ตัดเหงือกและไส้ออก จากนั้นนำไปแช่ในน้ำมะนาวผสมเกลือประมาณ 10 นาที จะช่วยดึงกลิ่นคาวออกไป
- ปรุงรสต้มยำให้เข้มข้น ต้มยำปลานิลที่ดีต้องมีรสชาติเข้มข้น ถึงเครื่อง โดยใช้เครื่องต้มยำครบถ้วน ได้แก่ ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูด ใส่มะขามเปียกหรือน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว ใส่พริกขี้หนูหรือพริกแห้งเพื่อเพิ่มรสเผ็ด ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทรายตามชอบ
- ต้มปลาให้พอสุก อย่าต้มปลานานเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อปลาเละ
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- หากชอบต้มยำปลานิลที่มีรสเข้มข้น สามารถใส่น้ำสต็อคลงไปได้
- หากชอบต้มยำปลานิลที่มีรสหวาน สามารถใส่น้ำตาลทรายลงไปได้
- หากชอบต้มยำปลานิลที่มีรสเผ็ด สามารถใส่พริกขี้หนูเพิ่มได้ตามชอบ
- หากชอบต้มยำปลานิลที่มีรสเปรี้ยว สามารถใส่มะนาวเพิ่มได้ตามชอบ
- หากชอบต้มยำปลานิลที่มีรสมัน สามารถใส่กะทิลงไปได้
คำถามที่พบบ่อย FAQ เกี่ยวกับต้มยําปลานิล
ต้มยำปลานิลมีกี่แบบ?
ต้มยำปลานิลมี 2 แบบหลักๆ คือ ต้มยำปลานิลน้ำใส และต้มยำปลานิลน้ำข้น
- ต้มยำปลานิลน้ำใส เป็นต้มยำที่มีน้ำซุปใส ไม่มีกะทิ
- ต้มยำปลานิลน้ำข้น เป็นต้มยำที่มีน้ำซุปข้น มีกะทิ
นอกจากนี้ ยังสามารถแบ่งต้มยำปลานิลตามระดับความเผ็ดได้อีกด้วย เช่น ต้มยำปลานิลเผ็ดน้อย ต้มยำปลานิลเผ็ดกลาง และต้มยำปลานิลเผ็ดมาก
ปลานิลชนิดไหนที่เหมาะกับการทำต้มยำปลานิล?
ปลานิลที่เหมาะกับการทำต้มยำปลานิลคือ ปลานิลสดใหม่ ไม่คาว เนื้อแน่น นิยมใช้ปลานิลตัวขนาดกลางถึงใหญ่ แล่เป็นชิ้นพอคำ
วิธีเลือกปลานิลสดใหม่?
- ปลานิลสดจะมีตาใส เหงือกสีแดงสด ผิวเรียบไม่มีบาดแผล
- เนื้อปลาสดจะแน่น ไม่ยุบตัว
- กลิ่นปลาสดจะหอม ไม่มีกลิ่นคาว
ต้มยำปลานิลควรต้มนานแค่ไหน?
ต้มยำปลานิลควรต้มจนเดือดอีกครั้ง ประมาณ 10-15 นาที ไม่ควรต้มนานเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อปลาเละ
ต้มยำปลานิลสามารถใส่ผักอะไรได้บ้าง?
ต้มยำปลานิลสามารถใส่ผักได้หลากหลายชนิด เช่น เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง ผักชีฝรั่ง ผักชี ขึ้นฉ่าย ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ เป็นต้น

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับต้มยําปลานิล
- ต้มยำปลานิลเป็นอาหารประเภทต้มยำที่มีรสเปรี้ยว เค็ม และเผ็ด นิยมรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
- ต้มยำปลานิลมี 2 แบบหลักๆ คือ ต้มยำปลานิลน้ำใส และต้มยำปลานิลน้ำข้น
- ปลานิลที่เหมาะกับการทำต้มยำปลานิลคือ ปลานิลสดใหม่ ไม่คาว เนื้อแน่น
- วิธีเลือกปลานิลสดใหม่ มีดังนี้
- ปลานิลสดจะมีตาใส เหงือกสีแดงสด ผิวเรียบไม่มีบาดแผล
- เนื้อปลาสดจะแน่น ไม่ยุบตัว
- กลิ่นปลาสดจะหอม ไม่มีกลิ่นคาว
- วิธีล้างปลานิลไม่ให้คาว มีดังนี้
- ล้างปลานิลให้สะอาดทั้งภายนอกและภายใน โดยตัดหัวและหางออก แล่เป็นชิ้นพอคำ ตัดเหงือกและไส้ออก
- นำไปแช่ในน้ำมะนาวผสมเกลือประมาณ 10 นาที จะช่วยดึงกลิ่นคาวออกไป
- วิธีปรุงรสต้มยำปลานิลให้อร่อย มีดังนี้
- ใช้เครื่องต้มยำครบถ้วน ได้แก่ ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูด
- ใส่มะขามเปียกหรือน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว
- ใส่พริกขี้หนูหรือพริกแห้งเพื่อเพิ่มรสเผ็ด
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทรายตามชอบ
ติดตามข่าวสารสาระดีๆได้ที่ : เนื้อปลา
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ : เมนูปลาต้ม